หัวข้อการสร้างความมั่นใจในตัวลูก 

รายละเอียดทั้งหมด 

สร้างความรู้สึกมั่นใจและภูมิใจให้แก่ลูก  

         การส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ และการ เติบโตด้านร่างกาย สมอง และจิตใจ อย่างเป็นขั้นตอนตามวัยนั้น เป็น เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ควรคำนึงถึง และสิ่งสำคัญให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายนี้ ก็คือ การเสริมสร้างความมั่นใจและความภูมิใจให้กับลูก แต่พ่อแม่มัก จะประสบปัญหา คือ จะทำอย่างไรให้ลูกของตนมีความรู้สึกนี้ขึ้น

1. การทำให้ลูกรู้สึกยอมรับในร่างกายของตนเอง

องค์ประกอบที่สำคัญของความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของ ลูกนั้นจะเกิดมาจาก ความรู้สึกยอมรับ และ “ความรู้สึกสบายใจ” ในเรือนร่างของตัวเอง ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพ่อ แม่ต้องสนับสนุนความคิดของลูกด้วย เช่น ถ้าลูกของคุณมีรูปร่างที่ อ้วนหรือผอมเกินไป คุณไม่ควรจะไปพูดให้เขารู้สึกว่า เขาผิดปกติไป จากเด็กอื่น เพราะจะทำให้เขาไม่ยอมรับตนเอง และจะทำให้เขารู้สึก ว่า เขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ เช่น ถ้าคุณพ่อคุณแม่เรียกลูกว่า ทีม จัง งี่เง่า โง่ ตัวแสบ อืดอาด หมูตอน เพิ่ม เชื้อโรค ฯลฯ การเรียกชื่อลูกด้วยคำพูดเหล่านี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นข้อด้อย และมัน จะเป็นการบั่นทอนความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของเขาอย่างร้ายกาจ และถ้าคุณพ่อคุณแม่ยิ่งเรียกเขาบ่อยครั้งเข้า ลูกจะกลายเป็นเชื่อและ คล้อยตามคำเรียกนั้น ถ้าลูกคุณเป็นแบบนั้นจริงๆ ขอให้คุณพ่อคุณ แม่รู้ไว้ว่า ลูกของตัวเองกำลังต่อสู้อย่างหนัก

เพื่อให้ตนเองมีความรู้สึกภาคภูมิใจเพราะความแตกต่างจาก เด็กอื่นในลักษณะที่มี "ปมด้อย” ทำให้ลูกคลางแคลงใจอยู่ตลอด เวลาว่าเขามีคุณค่าเหมือนเด็กคนอื่นหรือไม่ เพราะฉะนั้นคุณต้องการ ใช้ “ชื่อเล่น” เรียกลูก ขอให้เป็นชื่อที่มีความสร้างสรรค์ พร้อมทั้ง มอบความภาคภูมิใจในตนเองให้กับลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการ บ่งชี้ “ปมเด่น” ของเขา เช่น ถ้าลูกมีรูปร่างตุ้ยนุ้ยหรืออ้วนเกินไป สักหน่อย แต่ว่าเขามีร่างกายที่แข็งแรงสมวัย อาจเรียกเขาเล่นๆ ว่า ทาร์ซาน ซุปเปอร์แมน หรือจอมพลัง ถ้าลูกสาวเป็นคนซุ่มซ่าม แต่ ค่อนข้างเป็นเด็กฉลาด มีไหวพริบดี เรียกลูกคุณว่า เปรียว เก่ง เป็นต้น เพราะการที่เรียกชื่อเล่นเขาด้วยความรู้สึกเอ็นดูรักใคร่ มิใช่เพื่อล้อเลียน เสียดสี ถากถาง มันจะทำให้เขารู้ว่า เขามีความสำคัญและมีความหมาย ต่อคุณ

      สำหรับลูกที่ไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของเขา ให้คุณพ่อคุณแม่ ลองหากระจกเงามาไว้ในห้องเขา แรก ๆ เขาอาจจะไม่ชอบที่มีกระจก มาสะท้อนรูปร่างหน้าตาตัวเองทุกวัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ การ เห็นหน้าตาตัวเองทุกวันจะสร้างความเคยชินกับรูปร่างหน้าตาของตัว เอง และช่วยให้เกิดความรู้สึกเป็นกลาง หรืออาจจะสบายใจกับรูป ลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่งในการช่วยสร้างสรรค์ ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองให้แก่ลูก

2. การสร้างความภูมิใจให้ลูกโดยให้เขาทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง

เมื่อลูกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็จะค่อย ๆ ห่างจากอ้อมอกเรา ไปทีละน้อย ๆ และการพึ่งตนเองของลูกบางครั้งก็เกิดความวุ่นวายอยู่ บ่อยๆ พ่อแม่ควรจะเปิดใจให้กว้าง ไม่เพียงเพื่อทำใจให้รับได้เท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมให้กำลังใจให้เขาพึ่งพาตนเองให้ได้และการไม่ไปขัด ขวางการเติบโต เพื่อมุ่งไปสู่การพึ่งตัวเองตามธรรมชาติของเด็กแล้ว คุณจะได้ลูกที่เข้มแข็งแทนลูกแหง่ที่อ่อนแอต่อสิ่งรอบตัวไปเสียทุกเรื่อง

           คุณพ่อคุณแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกพึ่งตัวเอง เพื่อจะได้ช่วย สร้างสรรค์ให้เขามีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง และเป็นการช่วยให้ ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้นด้วยตัวของเขาเอง

สำหรับขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะกระตุ้นให้ ลูกของคุณพยายามพึ่งตนเอง คือ

ขั้นแรก ต้องปล่อยให้ลูกทำด้วยตนเอง แม้จะเห็นเขาล้ม เหลวซ้ำแล้วซ้ำอีกตราบใดที่เขายังยินดีทดลองอะไรใหม่ๆ จงปล่อย ตามใจเขาและหมั่นให้กำลังใจตลอดเวลา

    ขันสอง เมื่อลูกหัดทำอะไรใหม่ ๆ สักอย่างได้แล้ว จงปล่อยให้ เขาทำสิ่งนั้นด้วยตนเองตามลำพัง อาจเป็นไปได้ว่า บางครั้งเขาอยาก หันกลับมาพึ่งคุณพ่อคุณแม่อีก ปัญหามากเกินกว่าจะแก้เองได้ไหม อย่าเพิ่งตามใจเขาทันที ควรดูว่าเขามี เมื่อถึงเวลานั้นค่อยช่วยเหลือเขา ยังไม่สาย แต่ถ้าเป็นปัญหาเล็ก ๆ ควรให้กำลังใจเขาแก้ไขด้วยตนเองจะ ดีกว่า อย่างกรณีคุณพ่อคุณแม่มอบหมายให้เขาทำงานอะไรสักอย่าง ควรปล่อยให้เขาทำตามวิธีของเขาเอง ถ้าทำผิดพลาดอย่าเข้าไปทำแทน เพราะเท่ากับเป็นการทำลายความรู้สึกความภาคภูมิใจในตนเองของลูก อย่างยิ่ง และถ้ายิ่งคุณพ่อคุณแม่ทำแบบนี้เป็นประจำแล้ว จะทำให้ลูก ไม่มีวันเรียนรู้ที่จะแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ถูกต้องด้วยตนเองตลอดไป

ขั้นสอง เมื่อลูกหัดทำอะไรใหม่ ๆ สักอย่างได้แล้ว จงปล่อยให้ เขาทำสิ่งนั้นด้วยตนเองตามลำพัง อาจเป็นไปได้ว่า บางครั้งเขาอยาก หันกลับมาพึ่งคุณพ่อคุณแม่อีก อย่าเพิ่งตามใจเขาทันที ควรดูว่าเขามี ปัญหามากเกินกว่าจะแก้เองได้ไหม เมื่อถึงเวลานั้นค่อยช่วยเหลือเขา ยังไม่สาย แต่ถ้าเป็นปัญหาเล็ก ๆ ควรให้กำลังใจเขาแก้ไขด้วยตนเองจะ ดีกว่า อย่างกรณีคุณพ่อคุณแม่มอบหมายให้เขาทำงานอะไรสักอย่าง ควรปล่อยให้เขาทำตามวิธีของเขาเอง ถ้าทำผิดพลาดอย่าเข้าไปทำแทน เพราะเท่ากับเป็นการทำลายความรู้สึกความภาคภูมิใจในตนเองของลูก อย่างยิ่ง และถ้ายิ่งคุณพ่อคุณแม่ทำแบบนี้เป็นประจำแล้ว จะทำให้ลูก ไม่มีวันเรียนรู้ที่จะแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ถูกต้องด้วยตนเองตลอดไป

3. ชื่นชมเมื่อลูกทำดี

การที่คุณพ่อคุณแม่หมั่นแสดงความรู้สึกชื่นชอบและชมเชยลูก จะช่วยสร้างสรรค์ความรู้สึกความภาคภูมิใจในการกระทำของตนเอง ให้แก่ลูก เพราะการช่วยให้เขารู้สึกมั่นใจในการกระทำของตนเอง คุณ พ่อคุณแม่ควรสังเกตหาข้อดีของลูก หรือเมื่อเขาทำสิ่งที่ถูกต้องอย่าปล่อย ให้โอกาสดีๆ นี้ผ่านไป ควรพูดชมเชยเขาทันที วิธีการพูดชมเชยก็พูด ออกมาจากแง่มุมของคุณ และเปิดเผยความรู้สึกของคุณออกมาให้เขา รับรู้ พูดให้เขารู้ว่าเขาทำอะไรให้คุณรู้สึกพอใจและภูมิใจในตัวเขา และ การที่คุณพ่อคุณแม่หมั่นแสดงความชื่นชมลูกเป็นประจำ จะช่วยให้เขา อยากทำสิ่งที่ดีเพื่อให้คุณพึงพอใจ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ความรู้สึกที่ดี ต่อตนเองให้ลูก ทุกครั้งที่พูดชมเชยเขาอย่างเปิดเผย เขาจะมีความรู้สึก ว่าสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ ซึ่งทำให้ลูกเป็นคนที่มีค่าควรแก่การ นับถือ

กระตุ้นความคิดและวุฒิภาวะของลูก

การกระตุ้นความคิดของลูก ควรกระทำตั้งแต่ลูกยังอยู่ใน เพราะสมองของทารกจะมีการเจริญเติบโตและการพัฒนา เซลล์สมองหรือที่เรียกว่าเซลล์ประสาท จะมีการ วัยทารก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างจุดเชื่อมต่อ และเส้นใยประสาทนั้นก็จะมีเพิ่มมากขึ้นทีละเล็กที ละน้อย ทุกครั้งทารกได้รับสิ่งเร้าจากการกระตุ้นผ่านประสาทสัมผัส ทั้ง 5 อันได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การรับรส การได้ กลิ่น และการสัมผัส ซึ่งทารกสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านประสาท สัมผัสเหล่านี้ได้ตั้งแต่เกิดทำให้การเชื่อมต่อและการสร้างเครือข่ายเกิด มากขึ้น กระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์เกิดขึ้นโดยอาศัยส่วนต่าง ๆ ของ สมองที่มีหน้าที่แตกต่างกันมาร่วมทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อตอบสนองสิ่งเร้าที่มากระตุ้นในขั้นตอนของการพัฒนาไหวพริบให้ ลูก มีพัฒนาการปรับปรุงระบบเชื่อมโยงเครือข่ายต่าง ๆ ของสมองได้ดี ขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีวิธีที่จะกระตุ้นให้ลูกสามารถเกิดการพัฒนาทาง สมองได้หลากหลายวิธี

เมื่อลูกสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อย ๆ สิ่งที่คุณพ่อคุณ แม่ควรคำนึงถึงควบคู่กันไปต่อการเจริญเติบโต คือ

1. ต้องเป็นกำลังใจยามลูกท้อแท้

หลายต่อหลายครั้งที่ลูกเกิดอาการท้อแท้ในสิ่งที่เขากำลังตั้งใจ ทำ แต่ทำเท่าไรมันก็ไม่ประสบผลสำเร็จสักที จนลูกรู้สึกว่า ตัวเองโง่ และไม่มีความสามารถทำสิ่งนั้นได้อีก เมื่อถึงเวลาที่ลูกเกิดความคับ ข้องใจจงช่วยให้เขาผ่านพ้นภาวะนั้นให้ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้กำลัง ใจให้ลูกมุมานะ เมื่อเด็กมีนิสัยมุมานะมากเท่าไร โอกาสที่จะประสบ ความสำเร็จย่อมมีมากเท่านั้น

เด็กบางคนอาจจะหัวช้ากว่าเด็กคนอื่น จนไม่อยากไปโรงเรียน เพราะต้องถูกเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ เป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่ต้อง ช่วยลูกโดยเร่งด่วน เพราะลูกจะได้รับอิทธิพลจากห้องเรียนประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน ตลอดระยะเวลา 18 ปีแรกของชีวิตถ้าเขามีโอกาสเริ่ม ต้นชีวิตในช่วงนี้ดี คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมั่นใจได้ว่า เขาจะมีโอกาสเริ่ม ต้นชีวิตการทำงานได้ดีเช่นกัน

แสดงให้ลูกเห็นว่า คุณสนุกและมีความสุขกับการอ่าน การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรม หนังสือ ลูกของคุณก็จะซึมซับเข้าไปว่า ก ที่น่าสนใจ

ให้ลูกมีโอกาสได้เห็นว่า การแสวงหาความรู้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น

          เมื่อลูกมีคำถาม คุณไม่ควรตอบแบบขอไปทีแบบให้พ้นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกต้องการรู้จริงๆ และอยากได้รายละเอียด ด้วย ขอให้คุณถือโอกาสนี้พูดคุยแสวงหาความรู้ไปพร้อมลูก

        จุดที่สำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้ต้องอยู่ที่ “จิตใจรักการ แสวงหาความรู้ของพ่อแม่” บวกกับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง พ่อแม่และลูก จะมีผลโดยตรงต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของ ลูกในโรงเรียน

2 ท้าทายให้ลูกกล้าแสดงความสามารถ

วิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกแสดงความสามารถออกมาก็คือ การ ท้าทายให้ลูกเร่งพัฒนาความสามารถของเขา และเป็นการช่วยพิสูจน์ ให้เห็นด้วยว่า เขามีความสามารถ แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าท้าทายสุ่มสี่สุ่ม ห้า โดยเฉพาะการท้าทายในเรื่องที่ยากเกินไปที่ลูกจะทำได้ เพราะจะ เป็นการทำลายมากกว่าการสร้างสรรค์ ลูกคุณอาจคิดว่าเขาทำให้คุณ ผิดหวังเพราะเขาไม่มีความสามารถเท่าที่ควร และคิดว่า คุณอาจทอด ทิ้งไม่รักเขาอีกแล้ว

    เพื่อให้แน่ใจว่า คุณท้าทายลูกในระดับที่เหมาะสม คุณพ่อคุณ แม่ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

จงท้าทายลูกในขอบเขตของกิจกรรม ที่เขาเคยทำสำเร็จมาแล้ว

คุณต้องแน่ใจก่อนว่า ลูกสนใจการ ท้าทายของคุณจริง ๆ ไม่ใช่คุณคิดเอาเอง ว่าลูกน่าจะดูได้ลองทำดู

สนใจพี่เลี้ยง แม่บ้าน คนดูแล 

โทรสอบถามได้ที่ 0822628964 0994538964 0886975976 0885562632

สร้างความรู้สึกมั่นใจและภูมิใจให้กับลูก

202406-281108-articles-บทความ(11).png

ให้อิสระหัวข้อ  ให้เด็กได้มีอิสระทางความคิด 

การตัดสินใจของลูกมีความสำคัญต่อชีวิตในอนาคตอย่าง ยิ่งยวด พ่อแม่ควรให้อิสระทางความคิดการตัดสินใจแก่ลูก เพื่อเป็นการ เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้ความคิดของตัวเองอย่างเต็มที่ ในอนาคตเติบโต ขึ้นไปเขาจะได้มีความสามารถในการตัดสินใจให้ตัวเองได้อย่างถูกต้อง ทั้งยังช่วยให้เขารับผิดชอบต่อความคิด การตัดสินใจให้ตัวเอง

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ ต้องคอยให้คำแนะนำแก่ลูกให้เขา ตัดสินใจไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม แต่สมควรระวังการครอบงำ ทางความคิดของลูกเอาไว้ด้วย

การให้เขาคิด และตัดสินใจด้วยตัวเอง ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเอง มีค่า และเขาก็จะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง

1. เรื่องในบ้านให้เขามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย

พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่า จะถูกดุ แต่ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย จนถึงขั้น พูดจาก้าวร้าว เพ้อเจ้อ หยาบคาย โดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น

การยอมให้ลูกได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ทำให้เขารู้สึก ว่าตัวเองมีคุณค่า และยิ่งเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อตัวลูกเองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขาสามารถพัฒนาอารมณ์ไปในทางที่ถูกต้อง เมื่อเขาออกไปใน สังคมเขาจะรักษาสิทธิของตัวเอง และเคารพกฎกติกาต่าง ๆ ในสังคม ได้ด้วยดี

การยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นนั้น แม้เราจะไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยก็ตาม นับเป็นการเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยกันอย่างตรง ไปตรงมา ผลที่ตามมาทำให้รู้ความคิดข้างในของแต่ละคน ช่วยสร้าง ความเข้าใจในบ้านกันมากขึ้น แต่การแสดงความคิดเห็นของลูกก็ต้อง อยู่ในขอบเขตระดับที่เหมาะสม และสุภาพ

2. พ่อแม่ต้องให้คำแนะนำยามลูกมีปัญหา

ชีวิตของเด็กเต็มไปด้วยปัญหาบางปัญหาที่ดูเล็กน้อยสำหรับ พ่อแม่ แต่สำหรับลูกแล้วมันเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่โตในความรู้สึก ของเขา เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรใส่ใจในปัญหาของลูก ถึงแม้ว่ามันจะ เป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ก็ตาม

การช่วยลูกในการแก้ปัญหานั้น ต้องคำนึงว่าไม่ควรเข้าไปแก้ ปัญหาให้เขาทั้งหมด เพราะจะทำให้ต่อไปเขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ด้วยตัวเอง และความภาคภูมิใจในตัวเองของลูกก็จะลดน้อยลงด้วย พ่อแม่ควรจะช่วยชี้นำทางให้ลูกว่าปัญหาที่ลูกเจอนั้นคืออะไร

และลูกคิดที่จะแก้ปัญหาอย่างไร โดยให้คำแนะนำและข้อคิด เท่านั้น ส่วนข้อสรุปหรือทางแก้ปัญหาให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง

วิธีนี้ช่วยสร้างสรรค์ความภาคภูมิใจในตนเองให้ลูก เขาจะรู้สึกว่า ได้รับการยอมรับมีความสามารถ สิ่งนี้ต่อไปภายหน้าเป็นภูมิคุ้มกันอย่าง ดี หากต้องพบกับอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตของเขาเอง

3. ให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง

    พ่อแม่บางคนพยายามที่จะทำให้ลูกเป็นไปตามที่ตนต้องการ เช่น บังคับให้ลูกเรียนสิ่งนี้สิ่งนั้น โดยไม่ถามความคิดเห็นของลูกว่า เขาต้องการทำในสิ่งที่คุณให้เขาทำหรือไม่ สาเหตุสำคัญที่พ่อแม่บังคับ ให้ลูกทำตามความต้องการของตนเองก็คือ พ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็น เครื่องถมช่องว่างให้แก่ตนเอง ใช้ลูกเป็นเครื่องชดเชยความรู้สึกภาค ภูมิใจของตนเองที่ขาดหายไป ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง

    พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของ ตัวเอง ให้เขาได้เรียนรู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดในชีวิต พ่อแม่แค่คอยแนะนำ และสนับสนุนการกระทำของลูกเท่านั้น ลูกของคุณก็จะเกิดความภาค ภูมิใจที่ได้คิดด้วยตัวเอง โดยไม่มีพ่อแม่มาคอยชักจูงให้ไปในทางที่พ่อ แม่ต้องการ และเขาก็จะรู้สึกว่า ตัวเขาควรค่าแก่การนับถือด้วย

สนใจหาพี่เลี้ยงเด็กเผื่อช่วยเเบ่งเบาคุณพ่อคุณแม่ ได้ที่ 

ติดต่อสอบถาม 0994538964 0822628964 0885562632 0886975976

ให้อิสระและความคิดกับเด็ก

ควรให้เด็กได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง  https://bestcareprofessional.com

202406-281108-articles-บทความ(10).png

รายละเอียดทั้งหมด   

พ่อแม่เปรียบเสมือนเข็มทิศคอยนำทางให้กับลูก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม เพราะเด็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง ได้ทุกอย่าง การมีพ่อแม่เป็นคนคอยดูแลจะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย และ สามารถก้าวเดินผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ได้ด้วยดี

     การปลูกฝังเรื่องอุปนิสัยใจคอและศีลธรรมนั้น สำคัญอยู่ที่เด็ก ต้องมีต้นแบบที่ดี อย่าลืม “การกระทำของพ่อแม่ดังยิ่งกว่าคำพูด” หาก เราพูดโกหก พูดอย่างทำอย่าง ชอบนินทา ด่าทอผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับ หลัง วิจารณ์ไม่เลือกหน้า แล้วอย่างนี้เราจะหวังให้ลูกเราดีได้อย่างไร ในเมื่อตัวเรายังไม่เป็นแบบที่ดีให้กับเขาได้เห็นและเชื่อถือเลย 

       นอกจากพ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ สิ่ง ที่จะมาหล่อหลอมอุปนิสัยของลูกเหมือนกัน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดนตรี ฯลฯ เหล่านี้เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อเด็กในยุคปัจจุบันมาก จึง ต้องควรระมัดระวังเกี่ยวกับแรงผลักดันที่แอบแฝงอยู่ในสิ่งเหล่านี้ พ่อ แม่ควรคัดสรรให้ลูกเพื่อให้ลูกได้รับแต่สิ่งที่ดี ไม่ส่งผลต่ออุปนิสัยและ ศีลธรรมของเขาไปในทางที่ผิด 

      จงสร้างความเชื่อและค่านิยมที่เหมาะสมให้เกิดขึ้นภายในใจลูก อธิบายให้เห็นถึงผลทางบวกและลบของการกระทำที่ถูกหรือผิดด้วยภาษาที่ลูกจะเข้าใจ ให้ลูกมองเห็นภาพอย่างชัดเจนและ หลายด้าน ผลเสียของสิ่งที่ไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่ การโกหก เกียจคร้าน การติดยาเสพติด การคบเพื่อนผิด ดูโทรทัศน์มากเกินไป ดูถูกตัวเองและ การไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือหน้าที่ของตัวเอง ฯลฯ พ่อแม่ต้องช่วย ให้ลูกเข้าใจว่า ทำไมการกระทำและการประพฤติบางอย่างจึงผิดและเป็น อันตรายต่อเขาหรือคนอื่น 

      นอกจากนี้พ่อแม่ยังจำเป็นที่จะต้องสอนลูกว่า มีกฎทางจิตใจที่ คุ้มครองชีวิตเราทุกคน กฎเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันการทำผิด มีบทลงโทษ ที่รุนแรงเหมือนกันถ้าละเมิด สอนให้ลูกเคารพในคำสอนของศาสนาที่ ท่านนับถือ เช่น กฎและคำสั่งสอนของศาสนา ความเชื่อต่าง ๆ เพื่อไว้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเขา อธิบายให้ลูกทราบว่าจะนำคำสอนนั้น มาใช้ร่วมกับชีวิตประจำวันได้อย่างไร กฎแห่งชีวิตเหล่านี้ได้รวบรวมถึง การให้และการแบ่งปันผู้อื่น การห่วงใยเพื่อนมนุษย์ เพื่อปลูกเมล็ดพันธุ์ แห่งศีลธรรมในจิตใจเขา ป้องกันเขาจากสิ่งไม่ดีผิดศีลธรรมทั้งหลายต่อ ไปในอนาคตอันเติบใหญ่

    เพื่อช่วยให้เขามีศีลธรรมในใจอย่างแน่นแฟ้น ควรปลูกฝังเขาใน เรื่องศาสนาตั้งแต่เขายังเด็ก โดยการศึกษาธรรมะหรือคัมภีร์ ควรกำหนด เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันในครอบครัว อธิบายและแสดงให้เห็น แบบอย่างการประพฤติที่ถูกต้อง และถ้าประพฤติไม่ถูกต้องจะเป็นบาปอย่างไร

     โลกเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา พ่อแม่ก็ไม่ควรตกยุคสมัยเช่น กัน สมควรสำรวจและตรวจสอบว่าทุกวันนี้อะไรอาจเป็นสิ่งครอบงำ เด็กได้ จงพูดกับลูก และต้องเข้าใจถึงอิทธิพลต่าง ๆ ที่มาสัมพันธ์กับ ชีวิตของลูก เพราะบางครั้งอาจสายเกินไปสำหรับการแก้ไข

     พ่อแม่ควรจะสังเกตตรวจดูทัศนคติที่ไม่ดีของลูกเสมอ เมื่อเขา เกิดทัศนคติโกรธ เกลียด เห็นแก่ตัว โกง ดื้อรั้นและต่อต้าน ฯลฯ ควร ถามว่า ทำไมลูกจึงรู้สึกเช่นนั้นและบอกให้เขาเข้าใจว่า ทัศนคติที่ไม่ดี นี้จะเป็นอันตรายต่อตัวลูกเองและผู้อื่นอย่างไร สอนให้เขาจัดการกับ ความรู้สึกนั้นอย่างเหมาะสมและให้ทราบว่า ทำไมการโต้ตอบเช่นนั้น ให้ผลระยะยาวมากที่สุด

     อีกด้านหนึ่งพ่อแม่ต้องส่งเสริมทัศนคติที่ถูกต้องอันเกี่ยวข้อง กับความรัก การแบ่งปัน การให้อภัยและการเชื่อฟัง ฯลฯ แสดงให้ลูก เห็นความพอใจและชื่นชมเมื่อลูกกระทำในเรื่องเหล่านี้อย่างมีความรับ ผิดชอบ 

    เมื่อลูกประพฤติผิด พ่อแม่จำเป็นต้องฝึกวินัยด้วยสติปัญญา ความรักและความเอ็นดู ด้วยความเมตตาปรานี พร้อมด้วยความมั่นคง ในการเข้มงวดต่อสิ่งที่ผิด จงอย่าตามใจลูก ให้แก้ไขปัญหาด้วยความ รัก ช่วยให้ลูกเข้าใจว่า ทำไมสิ่งที่ลูกประพฤตินั้นผิดและทำไมวินัยจึง จำเป็นอย่างยิ่ง

รวมทั้งการลงโทษของลูก ไม่สมควรใช้ความรุนแรง และควร หาวิธีที่เหมาะสำหรับการแก้ไขความประพฤติผิดตามวัยของลูก เมื่อ แก้ไขความประพฤติด้วยการลงโทษ พ่อแม่ต้องจำไว้เสมอว่า ต้องไม่ ทำให้ลูกบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย การเฆี่ยนตีลูกบางครั้งอาจจะทำให้ เกิดอันตรายทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างไม่มีวันเลือนหายสำหรับลูกได้ 

      ดังนั้น หน้าที่การลงโทษของพ่อแม่นั้น ต้องหาวิธีการที่เหมาะ สมต่อการกระทำผิดของลูก โปรดใช้ปัญญาในการแก้ไขความประพฤติ ของลูก อย่าทำเกินกว่าเหตุของการลงโทษ ฝึกวินัยลูกด้วยความรัก ไม่ใช่ความโกรธ จะช่วยสร้างอุปนิสัยใจคอของลูกในทางที่ถูกต้องได้ อย่าให้อารมณ์ของตัวเองนั้นมาทำให้ลูกต้องมีนิสัยเป็นคนเก็บกดสร้าง ความเครียด ทั้งยังเป็นหนทางนำลูกไปสู่สิ่งที่ไม่ดีได้ง่าย

    นอกจากการสอนลูกด้านศีลธรรมแล้ว การสอนให้เขามีจริยธรรม ย่อมสร้างความภูมิใจในตัวเอง เพราะเด็กที่มีจริยธรรมประจำใจย่อม รู้สึกพึงพอใจในตนเองมากกว่าเด็กที่รู้สึกว่าตนไม่มีคุณค่าอะไรเลย 

        การมีจริยธรรมดีหมายความว่า ลูกย่อมมีความเข้าใจสถานภาพ ของตนเองในสังคม และความสัมพันธ์ที่มีต่อคนอื่นเป็นอย่างดี นอกจาก นี้ ยังมีความเข้าใจถึงผลของการกระทำที่ลูกมีต่อคนอื่นด้วย จะทำให้ เป็นคนปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย 

    สำหรับการสอนจริยธรรมให้แก่ลูก เริ่มต้นพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างทำความดีให้ลูกเห็นก่อน และทำอย่างสม่ำเสมอ ลูกก็จะค่อยๆซึมซับ และทำตามอย่างเป็นธรรมชาติ พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่าจริยธรรมเป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่าและควรกระทำ เมื่อลูกเกิดความรู้สึกนี้แล้ว   เขาย่อมอยากทำดีและเป็นคนมีจริยธรรมขึ้นมา

การฝึกการพัฒนาเด็กนั้นต้องค่อยๆสอนเพื่อการซึมซับเป็นอย่างดี 

สนใจพี่เลี้ยงดูแลพัฒนาเด็ก  ติดต่อสอบถามได้ที่ 

โทร   0822628964 0994538964 0885562632 0886975976

พัฒนาอุปนิสัยและศิลธรรมของลูก 

 พ่อแม่เปรียบเสมือนเข็มทิศคอยนำทางให้กับลูก

202406-281108-articles-บทความ(5).png

หัวข้อ สอนลูกเก็บตังเเบบคนจีน 

รายละเอียดทั้งหมด        กาลครั้งหนึ่ง ณ ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามั่งคั่งที่สุด เด็กชายเวลท์ ลูกชาย เพียงคนเดียวของอภิมหาเศรษฐีวัย 60 ปีที่ร่ำรวยที่สุดได้ถือกำเนิดขึ้นบน กองเงินกองทองอย่างแท้จริง เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแต่เด็ก อภิมหาเศรษฐี และภรรยาต่างก็ตามใจเด็กชายเป็นอย่างมาก ด้วยทั้งสองคนต่างก็คิดว่า ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลที่พวกเขามีอยู่นั้น จะพอให้เด็กน้อยมีกินมีใช้ อย่างสุขสบายไปจนชั่วลูกชั่วหลาน เพราะเหตุนี้ เด็กชายเวลท์จึงไม่เคยรู้จัก ความหิว ยิ่งคำว่า “ยากลำบาก” ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรม

เวลาผ่านไป จนกระทั่งเวลท์เปลี่ยนคำนำหน้าจากเด็กชาย กลายเป็น นาย อภิมหาเศรษฐีก็เสียชีวิตลง ไม่กี่ปีแม่ของเขาก็จากไปอีกคน เหลือแต่ นายเวลท์ลูกชายเพียงคนเดียวของอภิมหาเศรษฐี ข่าวดีคือเขาได้รับมรดก ทั้งหมด แต่ข่าวร้ายคือเขาไม่เคยรู้จักคุณค่าของเงิน และไม่เคยรู้เลยว่าเงิน หายากแค่ไหน เวลท์ใช้เงินยิ่งกว่าเบี้ย เขาทั้งสิ้นเปลือง ฟุ่มเฟือย แถมยังติดการพนัน เงินที่พ่อแม่อภิมหาเศรษฐีอุตส่าห์ตั้งใจเก็บหอมรอมริบไว้ให้ ค่อยๆ ร่อยหรอ ลง จนหมดในเวลาไม่กี่ปี เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นจริง เวลท์ถูกฟ้อง ล้มละลาย ทั้งยังเป็นหนี้ก้อนโตอีกด้วย

              เมื่อไม่มีเงินแล้ว เวลท์จำเป็นต้องหางานทำ เขาไม่เคยทำงานมาก่อน เลยทั้งชีวิต ทั้งยังเรียนไม่จบ จึงได้งานเป็นเพียงพนักงานบริการที่ร้านอาหาร การต้องทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่บาท เป็นสิ่งที่เขาไม่ เคยทำมาก่อน ไม่เพียงเขาจะได้รู้จักกับความลำบากเท่านั้น เขายังสนิทสนมกันดีกับ ความหิวอีกด้วย แต่ก่อนลูกชายอภิมหาเศรษฐีอย่างเขาเคยโยนเงินให้คนอื่นเป็น ว่าเล่น บางครั้งทำเงินหล่นยังไม่เก็บ เขายอมรับว่า การที่คาบช้อนทองมาเกิด ทำให้ไม่เคยมองเห็นคุณค่าของเงินเลย ตรงกันข้ามกับตอนนี้ที่ไม่มีเงิน แม้แต่ เศษสตางค์ก็ยังต้องเก็บอย่างดี นี่ล่ะ ที่เขาเรียกว่า “มาคิดได้เมื่อสาย” กว่าจะสำนึกได้ว่าเงินมีคุณค่า มากเพียงใด ก็ตอนที่ผลาญเงินไปจนหมด หากคิดได้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็น คุณชายเวลท์ เขาก็คงไม่ต้องกลายมาเป็น “ไอ้ยาจกเวลท์” อย่างทุกวันนี้แล้ว และนี่ก็เป็นเรื่องราวของคุณชายที่กลายสภาพไปเป็นยาจก เพียงเพราะไม่รู้จักคุณค่าของเงิน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะมารู้ตัวเมื่อสาย แต่ ย่อมไม่สายเกินไปแน่นอน ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ย่อมสามารถปรับปรุงและ พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้

       อ่านนิทานแล้วย้อนดูตัวเอง อย่ารอจนเงินหมดก่อนแล้วจึงค่อย เห็นคุณค่าของเงิน เราไม่สามารถเสกกระดาษให้กลายเป็นเงิน รองเงินที่ตก มาจากฟ้าเหมือนรองน้ำฝนก็ไม่ได้ วิธีหาเงินที่เราทำได้มีเพียง 3 วิธีเท่านั้น ได้แก่ 1. แต่งงานกับคนรวย 2. รับมรดก และ 3. ทำงาน ข้อ 1 และ 2 เป็น เรื่องยากที่จะกำหนดได้ มีเพียงข้อ 3 เท่านั้น ที่สามารถกำหนดได้ด้วยตนเอง 0 1 ล ยิ่งขยันมาก ยิ่งมีไหวพริบมาก ก็ยิ่งมีรายได้มาก นี่เป็นสิ่งที่คุณต้อง ทำให้ลูกเห็นและถ่ายทอดให้พวกเขาเข้าใจว่า เงินไม่ได้มีอยู่ในอากาศแต่เกิดขึ้น ได้จากการทำงานของเราเอง แม้จะรักพวกเขามากแค่ไหน การหัดให้พวกเขา ได้เผชิญหน้ากับความลำบากเสียบ้าง จะเป็นการดีต่อพวกเขามากกว่า อย่าง น้อยพวกเขาก็จะได้รู้จักคุณค่าของเงินอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นที่มาให้พวกเขา สามารถสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงได้ด้วยตนเอง

สนใจหาพี่เลี้ยง  

โทรสอบถามได้ที่ 0822628964 0994538964 0885562632

สอนลูกให้เก็บเงินเเบบคนจีน 

เงินทองได้มายาก ใช้หมดเกลี้ยงเเล้วจะรู้ว่าหายาก

202406-281108-articles-บทความ(3).png

หัวข้อ  ก่อนคลอดควรทำอะไรก่อน

รายละเอียด เพื่อความมั่นใจว่าการตั้งครรภ์ของคุณมีความ สมบูรณ์และปราศจากปัญหาใดๆ คุณยังควรเฝ้า ระวังในเรื่องของสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ ถ้าพบปัญหาในเรื่องใดก็ควรใส่ใจและแก้ไขโดยเร็ว การไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ความ กังวลลดลง และคุณจะได้รับการดูแลอย่าง ใกล้ชิดในเรื่องของคำแนะนำในการดูแลตัวเอง ก่อนคลอด และเมื่อลูกคลอดดังนั้นก่อนที่จะไปพบพวกเขาคุณก็ควรคิดก่อนว่าต้องการจะถามอะไรบ้าง คุณ คงต้องการให้การคลอดเป็นไปโดยที่เจ็บปวดน้อยที่สุด ซึ่งคุณก็ควรรู้ก่อนว่ามีวิธี อะไรที่พวกเขาได้จัดเตรียม หรือให้คำแนะนำได้บ้าง ซึ่งคำถามเหล่านี้ก็ สามารถเป็นไกด์ให้คุณได้ ดังนี้ 

รายละเอียดทั้งหมด  

เรื่องก่อนคลอด

**เรื่องหลังคลอด

หากต้องการพี่เลี้ยงแม่บ้านที่คอยช่วยซัพพอท คุณแม่

ติดต่อสอบถามพี่เลี้ยง ที่คอยช่วย24 ซ.ม  ได้ที่

โทร 082-2628964  0886975976 0994538964

ก่อนคลอด ควรดูแลเรื่องไดบ้าง 

202406-281108-articles-บทความ(2).png

หัวข้อ ตั้งท้องโดยที่ไม่รู้ตัว 

รายละเอียดทั้งหมด ผู้หญิงบางส่วนรู้ตัวว่าพวกเธอท้องแล้วในทันที จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายของ เธอหรือจากความรู้สึก เช่น ความเหนื่อยล้า ที่มากขึ้นหรืออาการคลื่นไส้ในตอนเช้า ก็เป็น สัญญาณเตือนแล้วว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ แต่ก็มี ผู้หญิงบางคนที่ไม่เคยประสบความเปลี่ยนแปลง และอาจเชื่อได้ยากว่าเธอตั้งท้องแล้ว

 - คุณอาจมีอารมณ์ความรู้สึกที่แปรปรวน เช่น อยู่ๆ มีความสุขเหมือนได้ลอยขึ้นฟ้า แล้วจู่ๆ ก็ตกลงมา แล้วก็เกิดอาการวิตกกังวล ขึ้นมาดื้อๆ ยิ่งอยากได้ลูกมากเท่าไร ความ ปลาบปลื้มดีใจที่จะได้เป็นพ่อแม่ก็ยิ่งมากขึ้น รวมไปถึงความกังวลในเรื่องของอนาคตอันใกล้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว

การจัดการเรื่องการเงิน ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และแน่นอนอีกเรื่องคือเรื่องสุขภาพของทารก ซึ่งในช่วงวันแรกๆ หรือสัปดาห์แรกๆ ของการ ตั้งครรภ์อาจเต็มไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรง แต่อย่างไร ก็ตาม คุณและคู่ของคุณอาจหาวิธีการทำจิตใจ ให้สงบลงได้ และค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง ซึ่งการใช้เวลาพูดคุยถึงเรื่องพวกนี้ก่อน ก็เป็น การเตรียมพร้อมที่ดีอีกอย่างหนึ่ง

สัญญาณเตือนการตั้งครรภ์

ที่คุณสามารถสังเกตได้

แน่ใจได้เลยว่าคุณท้องแน่ๆ

 สัญญาณที่แน่นอนที่สุดก็คือช่วงประจำเดือนขาด และผู้หญิงหลายๆ คน ก็รอคอยสัญญาณนี้อยู่

 แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็คงอยากรู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ใช่ไหม ดังนั้นคุณอาจใช้อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ได้เองที่บ้าน มันง่ายและสะดวก ในการใช้มาก สามารถให้ผลได้ทันทีจากวันที่คุณคิดว่าประจำเดือนของ เดือนถัดไปควรจะมาแล้ว ซึ่งจะวัดจากระดับฮอร์โมนครรภ์ในปัสสาวะ ของคุณ และคุณก็ตรวจได้ในตอนเช้าที่มีปัสสาวะเยอะที่สุด

 เมื่อเครื่องตรวจออกมายืนยันว่าคุณตั้งครรภ์แล้ว หรือคุณมีประจำเดือน ที่ขาดไป คุณก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อทำการฝากครรภ์ได้ การรู้แต่เนิ่นๆ ว่าคุณตั้งครรภ์ จะทำให้คุณกินดื่มและดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสมขึ้น

*****ต้องการพี่เลี้ยงเด็ก โทรสอบถามได้ที่***

โทร 0886975976  0994538964  0885562632  0822628964

เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง 

ท้องกะทันหัน

202406-281108-articles-บทความ(1).png

ช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ของการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เมื่อสเปิร์มกับไข่ได้ทำการผสมกัน ทารกก็จะได้ ถือกำเนิดขึ้นในมดลูกของผู้เป็นแม่ และจะได้ แยกออกมาเป็นมนุษย์ในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น แต่ตอนนี้ ครรภ์ของผู้เป็นแม่เปรียบได้กับสวรรค์ ที่แสนปลอดภัยของทารก ที่มีทุกอย่างจัดเตรียม ไว้ให้เพื่อรอการเจริญเติบโตของเขาจนกว่าจะถึง เวลาคลอด

- การตั้งครรภ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่ หลวงต่อคุณ และคุณก็จะอดคิดถึงลูกในท้องไม่ได้ ไปอีกนาน ตั้งแต่วันแรกที่คุณรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้อง จนกว่าจะถึงเวลาที่จะต้องทำงานหนักในการเลี้ยง ลูก และความตื่นเต้นที่จะได้ทำหน้าที่พ่อแม่

รายละเอียด  วางแผนเพื่อลูกเเข็งเเรง 

การวางแผนเพื่อลูกที่แข็งแรงเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นนะ สมัยนี้ครอบครัว มีขนาดเล็กลง และต่างเต็มใจที่จะพากันไปคุมกำเนิด และเลือกช่วงเวลา ที่จะเริ่มมีเด็กได้อย่างเหมาะสม

    รับประ ต่อสุข จะช่วย เราต่างก็คุ้นเคยกับการดูแลก่อนคลอด แต่ในการดูแลตัวเองช่วงก่อน และในระหว่างตั้งครรภ์ก็สำคัญมาก ในช่วงตั้งครรภ์คุณจะต้องให้ความ สำคัญกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวันเลย ตั้งแต่การควบคุมอาหาร, น้ำหนักที่เหมาะสม, ภูมิคุ้มกันโรค, การออกกำลังกาย, เมื่อใดที่ควรหยุด การคุมกำเนิด, แอลกอฮอล์, การสูบบุหรี่, และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม รอบด้าน

การควบคุมอาหาร

*******ภูมิต้านทานโรค**********

   การทำร่างกายคุณให้ฟิตและมีสุขภาพดี จะ ทำให้ต่อสู้กับโรคภัยได้อย่างง่ายดาย แต่จะ มีการติดเชื้ออยู่สองโรค ที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันอาจจะมีผลต่อทารกที่อยู่ในครรภ์ได้ ซึ่งก็คือ โรคหัดเยอรมัน และโรคอีสุกอีใส ถ้าคุณ ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหัดเยอรมัน ก็ควรทำ แต่ต้องแน่ใจด้วยว่าคุณจะไม่มีการตั้งครรภ์หลัง จากนั้นในสามเดือน * 

    การออกกำลังกาย ยิ่งร่างกายคุณฟิตและแข็งแรงมากเท่าไร คุณจะสามารถรับมือกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ ในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณควรออกกำลังกาย อย่างน้อยสามครั้งในหนึ่งสัปดาห์ ประมาณ 20 นาทีต่อครั้ง

***** การสูบบุหรี่ *****

สาวนักสูบบุหรี่เพียงครึ่งหนึ่งจะสามารถมีลูก ได้เมื่อเทียบกับสาวที่ไม่สูบ ส่วนผู้ชายก็เช่นกัน การสูบบุหรี่จะทำให้มีลูกได้ยาก ผู้ที่สูบ 10-20 มวนต่อวันมีโอกาสเสี่ยงในการมีลูกออกมา ผิดปกติถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ชายที่ไม่สูบบุหรี่ 

ควรหยุดการรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนเริ่มตั้งครรภ์ เพราะยามีผล กระทบในการปรับเปลี่ยนมวลวิตามินและเกลือแร่ ในร่างกาย ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนที่ ระบบจะกลับมาสู่ระดับคงที่ และหลังจากนั้น ก็จะเป็นโอกาสดีในการเริ่มตั้งครรภ์

******แอลกอฮอล์ ****

การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป ในระยะสามเดือนของการตั้งครรภ์นั้นอาจ ทำลายสเปิร์ม และไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์แล้ว อีกทั้งคุณแม่และคุณพ่อก็ควรลดแอลกอฮอล์ ในช่วงสี่เดือนก่อนคิดที่จะตั้งครรภ์ด้วย

 สสารสกปรกทั้งหลายที่ปนเปื้อนอยู่รอบกายคุณ จะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้ ยกตัวอย่าง เช่นคุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการโดนรังสีต่างๆ รวมถึงการเอกซเรย์ ทางที่ดีที่สุดควรหลีกเลี่ยง จากการโดนแสงที่มากเกินไป จนไปถึงการ ปล่อยควันเสีย ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ ภายใน บ้าน สี และกาวต่างๆ สุดท้าย ไม่ควรใช้ยาใดๆ โดยที่ไม่ได้รับการ รับรองจากแพทย์

สนใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กเเรกเกิด ติดต่อสอบถาม

ช่วงเเรกของการตั้งครรภ์

ช่วงเเรกท้องทำอย่างไรบ้าง

202406-281108-articles-เพิ่มหัวเรื่อง.png

รายละเอียด       หน้าต่างบู่ลี่สะอาดได้รวดเร็ว กระดาษเ กระดาษแข็  น้ำเบกกิงโซดาเจือจาง/น้ำสบู่ + ถุงมือผ้าฝ้าย: มู่ลี่ปลอดฝุ่น หากไม่ทำความสะอาดหน้าต่างมูลี่สักระยะก็จะมีฝุ่นเกาะอยู่มาก รู้หรือไม่ นิ้วมือของเราทำความสะอาดหน้าต่างแบบนี้ได้ดีมาก ค กะรัต • อาจใช้แปรงสำหรับมู่ลี่ทำความ สะอาดตามรูป • ใช้ไม้ปัดฝุ่นทำความสะอาด คร่าวๆ 1 ครั้ง 2 มือข้างหนึ่ จับกระดา อีกข้างหนึ่ • แล้วสวมถุงมือผ้าฝ้ายที่ฉีด น้ำเบกกิงโซดาเจือจางหรือน้ำสบู่ • สอดมือถูตามซี่มู่ลี่ให้สะอาดได้ รวดเร็วขึ้น ที่ชุบน้ำสบู ไปเรื่อยๆ

ต้องการแม่บ้านสอบถามได้ที่ 

การทำความสะอาดหน้าต่างมู่ลี่ 

ทำความสะอาดหน้าต่าง  ပြတင်းပေါက်သန့်ရှင်းရေး

202406-281108-articles-เลือกสิ่งที่อยากเป็น.png

หัวข้อ ปัญหาโรคหูผู้สูงอายุ

รายละเอียดทั้งหมด    ปัญหาโรคหู

ที่พบบ่อย เรื่องหนึ่งที่พบกันมากในผู้สูงอายุ ก็คือ “โรคหู” ซึ่งส่วนมากทักจะเป็นลักษณะหูตึง หรือได้ยินอะไรไม่ชัดเจน ซึ่งคนรอบข้างก็จะ ต้องตะเบ็งเสียงหรือพูดเสียงดังเพื่อให้ท่านเข้าใจ ขอให้ท่านที่อยู่รอบข้างหรือผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล ท่านโปรดจงเข้าใจและเห็นใจ เพราะโรคนี้เกิดขึ้น ได้กับทุกคน เรามาลองดูกันว่าสาเหตุนั้นมา จากไหน เราจะได้เข้าใจอย่างถ้วนถี่

<code class="inline-code"> <code class="inline-code">1</code>. ช่อง</code>หูอักเสบจากการแคะหู บางครั้งเราจะมีอาการคันในหูทั้งสองข้าง หรือรู้สึกว่ามีขี้หูอุดตัน การใช้ไม้พันสำลีปั่นหู หรือให้ช่างตัดผมแคะหูบ่อย อาจทำให้เกิดโรคหู ชั้นนอกได้ การที่ปั่นหูบ่อยเกินไปจะทำให้หูชั้นนอกอักเสบและยิ่งทำให้ คันหูมากยิ่งขึ้น บางครั้งถ้าเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้แก้วหูทะลุได้ การดูแลรักษา ห้ามปั่นหูเล่น เวลาที่อาบน้ำถ้าน้ำเข้าหู น้ำที่เข้าจะแห้งไปเอง ไม่ต้องเช็ด แต่ถ้ามีอาการคันมากในช่องหู ให้ใช้ยาเหลือง เช็ดในรูหูวัน ละครั้งอาการจะดีขึ้น แต่ถ้าไม่หายรีบไปพบแพทย์เฉพาะทาง

   2  . กรณีหูตึงในผู้สูงอายุ พบว่าสาเหตุเกิดจากประสาทรับเสียงหูชั้นในเสื่อมลง มีดังนี้ อายุมาก ตั้งแต่ อายุ 65 ปีขึ้นไป • ได้ยินเสียงระเบิดอย่างรุนแรงใกล้ๆ หูข้างนั้น อย่างเช่น เด็กที่เล่นปืนแก๊บยิงใส่หัวกัน หรือเล่นจุดประทัด ได้รับกระทบกระเทือนหรือบาดเจ็บบริเวณศีรษะอย่างรุนแรง เช่น ศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง • หูชั้นกลางอักเสบทำให้เป็นหูน้ำหนวก แล้วไม่ได้รับการรักษา 

วิธีการตรวจว่าประสาทหูเราทำงานหรือไม่

       ใช้นิ้วชี้ถูที่ข้างหูทีละข้างแบบเบาๆ หูข้างนั้นจะได้ยินเสียงกู แต่ถ้าไม่ได้ยินแสดงว่าหูข้างนั้นตึง 

ต้องการคนดูแลผู้สูงอายุติต่อสอบถาม 

โรคหูหนวก

โรคหูในผู้สูงอายุ

202404-06224-articles-Travel Writer &Photographer.png

หัวข้อ ความรู้สึกระยะแรก

รายละเอียดทั้งหมด

ความรู้สึกระยะแรก

9 ความรู้สึกเศร้าหดหู 93

คนเป็นแม่ไม่ได้มีเฉพาะช่วงแห่งความเบิกบานหรืออบอวลด้วยความสุข หลาย

ครั้งที่พบว่าแม่หลังคลอดหรือแม้จะผ่านไปหลายสัปดาห์รู้สึกซึมเศร้า โดยเฉพาะแม่

ที่มีลูกคนแรก เพราะความรู้สึกว่ามีงานมากมายรออยู่ ทั้งงานบ้านและที่ทำงาน ความ

รับผิดชอบ ความกังวลกับลูกในทุกๆ เรื่อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องฮอร์โมน

ล้วนส่งผลถึงอารมณ์ของแม่ได้

       หากรู้สึกเศร้าหรือท้อแท้ ควรหาโอกาสปลดปล่อยเรื่องการดูแลลูก ในช่วง 1-2

เดือนแรก ถ้าเด็กมีปัญหาร้องไห้มาก อาจอุ้มเขาไปเดินเล่นหรือออกกำลังกาย หา

งานอดิเรกทำ เช่น เขียนหนังสือ วาดรูป เย็บปักถักร้อย ไปเยี่ยมเพื่อน หรือชวน

เพื่อนมาพูดคุยที่บ้าน จะช่วยให้แม่ผ่อนคลายและมีความสุขขึ้น ระยะแรกแม่บางคน

อาจไม่มีอารมณ์อยากทำอะไรเลย แต่หากได้เริ่มลงมือแล้ว ความรู้สึกดีๆ จะกลับคืนมา

อย่างแน่นอน เมื่อแม่มีความสุข ลูกและครอบครัวย่อมมีความสุขไปด้วย

- อย่าลืมคนที่อยู่เคียงข้าง เพราะเป็นไปได้ที่สามีของคุณอาจจะกำลังรู้สึกอย่าง

เดียวกัน เพราะคุณมุ่งความสนใจไปที่ลูกมากกว่า การที่เขารู้สึกว่ากำลังโดดเดี่ยว

ก็สร้างความหดหูให้เขาได้ และกลไกป้องกันตัวตามธรรมชาติคือเขาแยกตัวไปเพราะ

คิดว่าคุณไม่ได้สนใจเขา ซึ่งอาจทำให้คุณโกรธ เสียใจ และเศร้ายิ่งขึ้น ฉะนั้นลอง

เปิดใจแบ่งปันความรู้สึกกัน ตัวสามีเองควรเตรียมพร้อมเป็นผู้ฟังที่ดี ให้เวลาในการ

พูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน

แม้จะลองทำทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว แต่ความรู้สึกไม่ได้ดีขึ้น หรือกลับย่ำแย่ลง

คุณอาจอยู่ในภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งพบได้บ่อยถึง 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิง

หลังคลอด แต่ส่วนใหญ่แล้วมีอาการไม่รุนแรงมากจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย หากคุณ

หรือสามีมีปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์มากหลังคลอด ควรรีบปรึกษาแพทย์

เฉพาะทางเพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป บางครั้งการได้พูดคุยกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ

หรือใช้ยาต้านอาการซึมเศร้า ความรู้สึกเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ ไม่ควรเก็บปัญหา

เอาไว้คนเดียว เพราะไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงของภาวะนี้ แต่แม่ที่เคยมีปัญหา

ซึมเศร้าก่อนการตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะเกิดภาวะนี้ได้

สนใจพี่เลี้ยงติดต่อสอบถาม

โทร 088-5562632 088-6975976 082-2628964

<a href="https://lin.ee/2dsjwL7">https://lin.ee/2dsjwL7</a>

<a href="https://bestcareprofessional.com/">https://bestcareprofessional.com/</a>

ความรู้สึกระยะแรกหลังคลอด

202305-06703-articles-Travel Writer &Photographer (3).png

หัวข้อ การสัมผัสและความผูกพัน

"ทารกต้องการการสัมผัส"

ลูกถูกสัมผัสห่อหุ้มตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หลังจากคลอดแล้ว วัฒนธรรมการเลี้ยงลูก

ของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าหรือในสังคมทั่วไป แม่กับลูกอ่อนก็ไม่ค่อยถูก

แยกจาก เราจะเห็นแม่กระเตงลูกด้วยการคาดผ้าติดกับตัวพร้อม ๆ กับทำภารกิจต่างๆ

ไปด้วย ไม่ว่าจะเตรียมอาหาร ขุดดิน ทอผ้า กระทั่งนอนด้วยกัน ลูกจะเคลื่อนไหว

ไปพร้อมๆ กับแม่ ได้ยินเสียงแม่เห่กล่อม หรือการสั่นของเสียงที่เกิดขึ้นเนื่องจากอยู่

ชิดกับตัวแม่ หิวก็สามารถดูดนมแม่ได้ทันที เมื่อเขาโตขึ้นอีกหน่อย แม่ก็จะเอาเข้าเอว

หรือส่งต่อให้พี่สาวอุ้มหรือแบกขึ้นหลัง ในวัฒนธรรมการเลี้ยงดูแบบนี้ พบว่าเด็ก

จะร้องไห้น้อยกว่า มีความเครียดและอารมณ์หงุดหงิดน้อยกว่า

          ในขณะที่ความเชื่อในการเลี้ยงดูของสังคมสมัยใหม่กลับสร้างระยะห่างให้แก่

ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการแยกลูกที่เพิ่งคลอดไปอยู่ในห้องเด็กอ่อนโดยอ้างว่า

เป็นการป้องกันการติดเชื้อ การให้พยาบาลมาดูแลโดยอ้างว่าเป็นมืออาชีพ แต่นั่นเป็น

การตอกย้ำว่าแม่ไม่มีความสามารถเพียงพอ ทำให้แม่ขาดความมั่นใจ การให้นมขวด

โดยอ้างว่าแม่ยังมีน้ำนมไม่เพียงพอ นั่นก็ยิ่งทำให้แม่ลูกขาดโอกาสสร้างความสัมพันธ์

ใกล้ชิดโดยการดูดนมจากอกแม่

สร้างความรู้สึกมั่นใจและภูมิใจให้กับลูก

Latest news

ก่อนคลอด ควรดูแลเรื่องไดบ้าง

เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง

ช่วงเเรกของการตั้งครรภ์

Popular news

การทำความสะอาดหน้าต่างมู่ลี่

โรคหูหนวก

ความรู้สึกระยะแรกหลังคลอด